วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตลาดลาดชะโด ตลาดเก่าแก่กว่า 100 ปี
ลาดชะโดแดนทำหรีด อดีตแหล่งรวมปลา เสาศาลาวัดต้นใหญ่
ภาพยนตร์ไทยมาถ่ายทำ งามล้ำด้วยสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น

....ตลาดเก่าร้อยปีลาดชะโดแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อยู่ใน อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถ้าขับรถไป ก็ไปเส้นสายเอเซียเลยครับ (ออกทางรังสิต) พอเจอป้าย อยุธยา-วังน้อย
ก็เลี้ยวซ้ายตามป้ายอยุธยาไปเลยครับ แล้วก็ตรงอย่างเดียว ผ่านเจดีย์ใหญ่ ข้ามสะพาน ตรงไปเรื่อยๆ เจอ 3
แยกก็เลี้ยวขวา สำนักงานอยู่ติดริมถนน อยู่ทางซ้ายมือ ส่วนถ้าไม่มีรถก็สามารถไปขึ้นรถได้ที่หมอชิต สาย กทม. - ผักไห่ (อยุธยา) มาลงที่ตัวอำเภอผักไห่
แล้วค่อยเหมานั่งสามล้อมาตลาดลาดชะโด ตกอยู่ที่คันละ 50 บาท (ราคานี้ ราคาเหมาไปนะ ไปกันสัก 3-4 คน ที่ อ.ผักไห่ โดยเฉพาะสายน้ำเส้นนี้และตลาดลาดชะโด
......ใครจะรู้ว่าเป็นสถานที่ที่หนังหลายเรื่องยกกองมาถ่ายทำ สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ไทยและละครโทรทัศน์หลายเรื่อง อาทิเช่น “บุญชู” “รักข้ามคลอง” “สตางค์” “ชื่อชอบชวนหาเรื่อง” “ดงดอกเหมย” “ความสุขของกะทิ” เป็นต้น

.....ชุมชนลาดชะโดมีอายุเก่าแก่ราวสมัยหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 หรือ ราวปีพ.ศ. 2310 ก่อตั้งขึ้นโดยชาวกรุงเก่าที่อพยพหนีศึกสงครามมาในครั้งนั้น พื้นที่บริเวณที่ตั้งชุมชนแต่เดิมเรียกว่า“บ้านจักราช” แต่การที่หมู่บ้านนี้มีชื่อว่า “บ้านลาดชะโด” น่าจะมีที่มาจากสภาพพื้นที่ที่เป็นที่ลาดริมน้ำ และความอุดมสมบูรณ์ของคูคลองที่มีอยู่มากมายและอุดมไปด้วยปลาชนิดต่างๆโดยเฉพาะปลาชะโด ถึงขนาดมีคำเตือนกันว่าเวลาพายเรือให้ระวังไม้พายจะไปโดนปลาชะโดเข้า

.....ชาวบ้านลาดชะโดแต่เดิมคงมีการปะปนกันหลายเชื้อชาติ ที่มีมากคือไทยและมอญ
การตั้งบ้านเรือนนิยมทำเลริมน้ำ อาชีพหลักของชาวบ้านคือทำนา เพราะหมู่บ้านอยู่ใกล้ทุ่งลาดชะโด
ซึ่งเป็นพื้นที่ดินตะกอนปากแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์
มีคลองลาดชะโดซึ่งเชื่อมต่อกับจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นทางน้ำสำคัญ
นับว่าเป็นหมู่บ้านที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำในแถบนี้

.....ปัจจุบัน บ้านลาดชะโดได้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา อย่างไรก็ดี
ชุมชนนี้ยังมีลักษณะของชุมชนเก่าแก่ที่มีองค์ประกอบของชุมชนอย่างครบถ้วน
มีพัฒนาการมาจากตลาดน้ำที่มีเรือนแพค้าขาย
ปัจจุบันยกจากน้ำขึ้นบกกลายเป็นตลาดวิถีชีวิตริมน้ำของคนภาคกลางริมคลองลาด ชะโด
.......ลักษณะตลาดเป็นเรือนแถวขนาดใหญ่หันหน้าเข้าหากันทางเดินกว้างขวาง
.......ลาดชะโดในอดีตเป็นศูนย์กลางการค้าขาย คึกคัก เต็มไปด้วยผู้คนที่มาทำการค้าขายระหว่างกัน
.......มีโรงสีข้าว ใช้เส้นทางสัญจรทางน้ำ เป็นหลัก บางคนอาจจะเข้ามาเพื่อที่จะเอาข้าวมาสีที่โรงสี
ซึ่งโรงสีที่นี่เปรียบเหมือนธนาคารของผู้ค้าข้าวคาดว่าในอดีตที่แห่งนี้น่า จะเป็นตลาดขนาดใหญ่เพราะมี
โรงภาพยนตร์ด้วย ด้านทรัพยากรธรรมชาติก็มีปลาน้ำจืดชุกชุม
เป็นภาพที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ทั้งทรัพยากรและผู้คน
.......ความน่าสนใจและเสน่ห์ของตลาดเก่าแก่แห่งนี้ที่ดึงดูดให้สถานที่แห่ง นี้ได้ใช้เป็นฉากถ่ายภาพยนต์แล
ะละครย้อนยุคหลายๆ เรื่อง เช่น ดงดอกเหมย รักข้ามคลองและบุญชู และความสุขของกะทิ เป็นต้น
.......นอกจากนี้ลาดชะโดยังเป็นบ้านเกิดของศิลปินนักร้องและนักแต่งเพลงใน ยุค 70’s คุณธีรศักดิ์
อัจจิมนนท์ ผู้ขับร้องเพลงกุหลาบสีแดงและลมลวง ที่เคยโด่งดังและได้รับความนิยมมากในอดีต
ตลาดลาดชะโด ก่อตั้งมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 51 ปี โดยพัฒนามาจากตลาดน้ำ
ชุมชนเดิมในตลาดมาจากชุมชนเรือนแพค้าขาย เกิดเป็นรูปแบบของตลาดน้ำ
ต่อมาวัดลาดชะโดได้ยอมยกพื้นที่ริมน้ำซึ่งเป็นพื้นที่ของวัดให้ชุมชนได้ทำมา ค้าขาย
ในช่วงแรกมีการจับฉลากในการให้สิทธิ์พื้นที่ในตลาด ชุมชนค้าขายของชาวเรือนแพจึงได้อพยพจากน้ำขึ้นสู่บกโดยในการก่อสร้างตลาดนั้นเริ่มตรงพื้นที่ที่ติดคลองลาดชะโดแล้วขยายเข้าไป สู่ฝั่งเรื่อยๆ
ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างนั้นใช้ระบบเรือนค้าของผู้ใดผู้นั้นก็ออกเงินในการ ก่อสร้างเอง
ส่วนที่เป็นสาธารณประโยชน์ อาทิ ท่าขนส่งสินค้า
หรือหลังคารวมในตลาดสมาชิกผู้อาศัยในตลาดจะออกเงินเป็นกองกลางในการก่อสร้าง
ตลาดลาดชะโดจึงได้ดำเนินการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และเป็นตลาดที่คึกคักรุ่งเรืองมากในสมัยนั้น

...ในปี พ.ศ. 2526 – 2527 ได้มีการถมที่บางส่วนที่เป็นลำคลองเพื่อสร้างเป็นถนนเชื่อมจากทางหลัก
ทำให้การคมนาคมทางบกเข้ามาประชิดตัวตลาดลาดชะโด ทำให้ตลาดลาดชะโดซบเซาลง
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตลาดนัดซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก จึงมีผลกระทบต่อตลาดลาดชะโด
จนทำให้เรือนค้าในตลาดเริ่มร้างไร้ผู้คน หลายคนอพยพออกจากชุมชนตลาดเข้าสู่เมือง
เรือนค้าจึงเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัยมากขึ้น
และโรงเรียนที่นี่สร้างเป็นรูปตัว E ซึ่ง ผอ.โรงเรียนบอกว่า
น่าจะมีระเบียงชั้นเรียนยาวที่สุดในประเทศไทยนะ ไม่ธรรมดาเลยนะครับ ถ้าว่างๆน่าจะลองแวะมาเที่ยวบ้างนะครับ

นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงมีสถานที่น่าสนใจได้แก่
- วัดลาดชะโด วัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แวะสักการะรูปเหมือน หลวงพ่ออุปฌาย์ อิ่ม ธมฺมสาโร (อิ่ม ผาสุกถ้อย) อดีตเจ้าอาวาสวัดลาดชะโด ซึ่งเป็นที่เคารพของผู้คนในชุมชน ชมศาลาการเปรียญเก่าแก่ ขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเก่า สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2456 เสาทำจากซุงไม้ตะเคียนทั้งต้น พื้นทำจากไม้สักทองทั้งหลัง
- โรงเรียนวัดลาดชะโด (ประกาศวิทยาคาร) มีอาคารเรียนสร้างด้วยไม้ใต้ถุนสูง รูปตัว E สร้างเมื่อ ปี พ.ศ.2503 เป็นอาคารไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย บริเวณหน้าโรงเรียนวัดลาดชะโด มีปลาธรรมชาติมากมาย อาทิ ปลาชะโด ปลากราย ปลาหางแพน ปลาสวาย ปลาสลาด และปลาแสลด
- บ้านขุนพิทักษ์บริหาร เป็นบ้านไม้ทรงโบราณ 2 ชั้น ติดกับแม่น้ำน้อย เป็นที่อยุ่อาศัยของคหบดีซึ่งทำการขนส่งทางเรือในอดีต

การเดินทาง จากอำเภอผักไห่ ใช้เส้นทาง 3454 เข้าทางวัดอมฤต (เทศบาลซอย 14) ถึงตลาดลาดชะโด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ เทศบาลตำบลลาดชะโด เลขที่ 99 หมู่ 1 ตำบลหนองน้ำใหญ่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หมายเลขโทรศัพท์ 0 3574 0263 - 4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น