วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ไหว้หลวงพ่อใหญ่ วัดม่วง วิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง(พระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในโลก)


ไหว้หลวงพ่อใหญ่ วัดม่วง วิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง (พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ)

สวัสดีทุกท่านกับวันที่น้องน้ำจากไปแต่ไม่ได้ไปแล้วไปลับเพราะอีก7-8เดือนเธอจะกลับมาใหม่
กว่าจะโผล่มาได้หลังจากที่โดนกระแสน้ำท่วมฟีเวอร์เล่นเอาโรงเรียนปิดกันยาว วัด สถานที่ ต่างๆเสียหายไปตามกัน ที่น่าเสียดายมากคือโบราณสถาน สถานที่ท่องเที่ยวประวัฒิศาสตร์ ที่โดนน้ำท่วม ในเมื่ออยุธยายังต้องรอการฟื้นฟู เราก็เลยแวะไปเที่ยวจังหวัดเพื่อนบ้าน ที่มี เรื่องราวประวัฒิศาสตร์ มากมายที่ไม่น้อยกว่าอยุธยา

วันนี้เราพากันไปที่จังหวัดอ่างทอง ช่วงนี้อากาศไม่ค่อยร้อนมากและใกล้เทศกาลปีใหม่ถ้าใครยังไม่เคยมารีบมาเลยขอบอก มาวัดนี้บอกได้เลยว่าคุ้มมากๆมีอะไรๆให้ดูแยอะ มีทั้งความบันเทิง และ ให้ความรู้ ให้ประโยชน์ ให้เราหยุดเดิน ให้เราหยุดคิด หรือจะเดินหน้าต่อไป ถ้ามีเวลาว่างก็รีบชวนลูกชวนหลานมาเที่ยวที่วัดม่วง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง รับรองเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ทีมงาน ล้อหมุน.คอม ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ที่นี่มีพระองค์ใหญ่มาก และด้านหน้าองค์พระก็ยังมีรูปั้นจำลอง ขนาดเท่าของจริง มีเรื่องราวมากมาย ให้ดูให้ชม โบถร์แก้วสวยงามไม่แพ้ที่อื่นเหมือนกัน กำแพงดอกบัว ที่ขาดไม่ได้ก็ให้อาหารปลานี่แหละที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำท่วมตลาดบ้านแพน ประจำปี2554 ความลำบาก หรือความเคยชิน




สำหรับตลาดบ้านแพนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วครับแค่น้ำท่วม เพราะมันท่วมเกือบทุกปี กับภูมิลำเนาติดกับแม่น้ำเป็นที่ลุ่มรับน้ำพอดีเลย จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ความปราณีของธรรมชาติ สำหรับปีนี้มาไวกว่าปีที่แล้ว1เดือน พี่แกมาแบบว่าท่วมก่อนและท่วมนาน เล่นเอาโรงเรียนปิดกันเป็นเดือนๆ แต่ธุรกิจของบรรดาแม่ค้าในตลาดก็ยังอยู่ได้ พอน้ำมาก็ต้องรู้ว่าทำยังไง เพราะมันเป็นความเคยชินไปแล้ว ของคนตลาดบ้านแพน แต่ไม่ใช่ทำมาหากินไม่ลำบากนะ ลำบากมาก ลำบากแบบรู้ตัว ไม่เหมือนบางพื้นที่ มาแบบไม่ทันตั้งตัว และอีกหลายๆอาชีพก็แย่ไปตามๆกัน และปีนี้อ่วมหนักกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา ท่วมก่อน ท่วมหนัก ท่วมนาน ก็สู้ๆครับ

สำหรับท่านที่หลงเข้ามาอ่าน ขอวอนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ตามจุดรับความช่วยเหลือตามสถานที่ต่างๆ เพียงแค่ท่านละ10-20บาท หรือมากกว่านั้นตามกำลังศรัทธา เพราะยังผู้ที่ประสบภัยยังมีอีกมากหลายๆพื้นที่ ที่ลำบากมากจริงๆ และยังรอความช่วยเหลือ จากน้ำใจของคนไทย ผู้ให้มีความสุข ผู้รับก็ดีใจครับ

ช่วงนี้งานยุ่งทีมงานเลยไม่ค่อยได้อัพข้อมูลข่าวสารเท่าใดนัก ทีมงานเลยเก็บภาพน้ำท่วมตลาดบ้านแพนมาฝากไว้ดูเล่นกันครับ






วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

นมัสการ หลวงปู่ทิม อัตตสันโต วัดพระขาว กับแหล่งเรียนรู้เมืองกรุงเก่า



สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้พี่ๆน้องมีความสุขความเจริญ รวยๆกันถ้วนหน้าตลอดปี2554นะครับ
ล้อหมุน.คอมรายงานตัวครับ หายไปนานนึกว่าลอยไปกับน้ำซะแล้ว อันดับแรกขอกลาบขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกของเรามากมาย ที่เข้ามาอ่านบทความ เก็บเกี่ยวสิ่งที่เป็นประโยชน์ส่วนสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ไม่ต้องเอาออกไปนะครับหรือท่านที่บังเอิญคลิ๊กผิดเข้ามาก็ต้องขอขอบคุณไว้นะที่นี้ด้วยครับ ไม่ต้องกลัวของดียังไม่หมดอยุธยาครับ ทีมงานล้อหมุน.คอมจะพยายามแสวงหามาให้ท่านได้ชมกันอีกเรื่อยๆ หากันแถวๆบ้านนี่หล่ะครับไม่ต้องไปไกล
ขึ้นชื่อว่าพระเกจิ อยุธยามีไม่น้อย และที่ผมจะกล่าวถึงเป็นผู้ทรงศีลที่ถูกขนานนามว่า "พระมากเมตตา"


หลวงปู่ทิม อัตตสันโต วัดพระขาว "พระครูสังวรสมณกิจ"
วัดพระขาว มีเป็นวัดขึ้นชื่ออีกหนึ่งวัด ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่อาจเพราะอยู่นอกตัวเมืองนักท่องเที่ยวหรือคณะทำบุญจึงไม่ค่อยได้แวะมาเท่าที่ควร ที่วัดพระขาวนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดาเลยในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นโบสถ วิหาร มณฑป ศิลปะต่างๆ วัตถุมงคล แพปลา ไม่ได้ด้อยไปกว่าวัดในเมืองเลย งานนี้ทีมงานล้อหมุนได้เดินทางแบบไม่ได้เตรียมตัวก็เลยเก็บภาพมาได้เล็กน้อยเพราะมัวแต่ตะลึงกับความงามของ มณฑปลายรดน้ำ อัตตสันตมหาเถราจารย์ มณฑปซึ่งสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง อยากให้ท่านมาเห็นด้วยตัวเองจริงๆครับ ตรุษจีนนี้ก็แวะเวียนมาเที่ยวกันได้นะครับ ช่วยกันส่งเสริมการท่องเที่ยวจะได้คึกคักกันหน่อยครับ อยากมาแต่มาไม่ถูกติดต่อสอบถามเส้นทางได้ที่ 087-3711704 ยินดีให้บริการครับ


ประวัติวัดพระขาว วัดพระขาว สังกัดมหานิกาย อยู่ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ตำบลน้ำเต้า อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดมีเนื้อที่19ไร่2งาน ทิศเหนือ และทิศใต้มีบ้านล้อมทั้งสองทิศ ทิศตะวันออกติดถนนหลวง ทิศตะวันตกมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านตลอดปี วัดพระขาวสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในปี พ.ศ.2440 ภายในอุโบสถ ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง แบบประเพณี เช่นพุทธประวัติ ไตรภูมิ มารผจญ ทศชาติ และภาพทวารบาล

จุดเด่นของวัดนี้มีเยอะมาก หลวงพ่อขาว พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ แหล่งเรียนรู้เมืองกรุงเก่า มณฑปลายรดน้ำ เรือนไทยลายกำมะลอ พระประจำวัน พระโพธิสัตว์กวนอิม พระแม่โพสพ แม่นางกวัก พญาเต่าเรือน แพปลามัจฉาธานี และร่วมกันทำบุญบำรุงพระพุทธศาสนา ทำกันตามศรัทธาไม่ได้บังคับ


เมืองกรุงเก่าพระนครศรีอยุธยา มีพระเกจิอาจารย์เรืองนามอยู่ 3 รูปร่วมสมัยและเป็นสหธรรมิกกัน
ประกอบด้วย หลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา, หลวงปู่มี วัดมารวิชัย และหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ซึ่งมีวัยวุฒิไล่เลี่ยกัน โดยเฉพาะด้านไสยเวทวิทยาคมก็เป็นเอกอุต่างกัน แต่ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ หลวงปู่เมี้ยน และหลวงปู่มี ละสังขารไปก่อน
ภาระเจตนาบุญได้รับการสืบสานต่อโดยหลวงปู่ทิม พระเกจิอาจารย์แห่งวัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ล้วนแล้วแต่ต้องนิมนต์หลวงปู่ทิม เพื่อทำหน้าที่ประธานฝ่ายสงฆ์ จุดเทียนชัยหรือดับเทียนชัย


แต่แล้วเมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 มีนาคม 2552 คณะศิษย์ของหลวงปู่ทิม อัตตสันโต ต้องได้รับข่าวเศร้า เมื่อหลวงปู่ทิมหรือพระครูสังวรสมณกิจ ได้มรณภาพลงอย่างสงบ ขณะเข้ารับการรักษาอาการป่วย ณ โรงพยาบาลโรคทรวงอก อ.เมือง จ.นนทบุรี สิริอายุ 96 พรรษา 62


ประวัติ หลวงปู่ทิม อัตตสันโต แห่งวัดพระขาว
อัตโนประวัติหลวงปู่ทิม มีนามเดิมว่า ทิม ชุ่มโชคดี เกิดวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2456 ปีฉลู ที่ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายพร้อม และนางกิ่ม ชุ่มโชคดี เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนลูกทั้งหมด 6 คน
คนแรก พี่ทอง ชุ่มโชคดี เป็นหญิง เสียชีวิตตั้งแต่เยาว์วัย
คนที่ 2 พี่เทียบ ชุ่มโชคดี
คนที่ 3 พี่ทัศน์ ชุ่มโชคดี เป็นผู้ใหญ่เก่า หมู่ 5 ต.พระขาว (เสียชีวิตแล้ว)
คนที่ 4 พี่ทอด ชุ่มโชคดี
คนที่ 5 หลวงปู่ทิม ชุ่มโชคดี มรณภาพ วันที่ 22 มีนาคม 2552
คนที่ 6 นายสังวาลย์ ชุ่มโชคดี

ช่วงวัยเยาว์ หลวงปู่ทิมได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดพิกุล จนถึงอายุ 13 ปี เมื่อจบ ป.4 จึงออกจากโรงเรียนมาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพทำนา ก่อนจะถูกเกณฑ์เป็นทหาร ถูกส่งตัวไปปฏิบัติราชการสงครามฝรั่งเศส รวมทั้งสงครามโลกครั้งที่ 2

กระทั่งปลดประจำการ หลวงปู่ทิมจึงได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2475 ณ วัดพิกุล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี หลวงพ่อปุ๋ย วัดขวิด เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อหลิ่ว วัดโพธิ์กบเจา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการหลิ่ว เจ้าอาวาสวัดพิกุล เป็นพระอนุสาวนาจารย์
แต่บวชอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาได้เพียง 1 พรรษา ท่านได้ลาสิกขาแต่งงานมีครอบครัวและมีบุตร-ธิดา 4 คน

หลังจากนั้น หลวงปู่ทิมท่านได้กลับมาอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2491 ขณะอายุได้ 35 ปี ณ วัดพิกุล อ.บางบาล โดยมี พระครูอุดมสมาจารย์ (หลวงพ่อสังข์) วัดน้ำเต้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา อัตตสันโต

หลังอุปสมบท หลวงปู่ทิมได้อยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดพิกุล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ในระหว่างที่หลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดพิกุลนั้นได้มีชาวบ้านนำเอาศพคนตายมาฝากไว้ในกุฏิถึง 2ศพด้วยกัน ทำให้เกิดมีแนวกรรมฐานด้วยตนเองอย่างถ่องแท้ พร้อมทั้งอาศัยหลักกรรมฐานด้วยตนเองอย่างถ่องแท้ พร้อมทั้งอาศัยหลักกรรมฐานที่ว่า สามัญในลักษณะ หมายความว่า ลักษณะที่เสมือนกันใน สังขารทั้งหลายทั้งปวง สิ่งนั้นก็คือ
อนิจจัง ( ความไม่แน่นอนในสังขาร )
ทุกข์ขัง (ความวุ่นวาย , ไม่สงบสุข ในสังขาร )
อนัตตา (ความตาย , ไม่มีตัวตน )

จากนั้นหลวงปู่ทิม ท่านได้ไปจำวัดอยู่ยังวัดน้ำเต้ากับอุปัชฌาย์ คือ หลวงพ่อสังข์ อยู่กับหลวงพ่อวัดน้ำเต้าประมาณ 1 เดือน ในระหว่างที่อยู่กับหลวงพ่อสังข์นั้น หลวงพ่อสังข์ได้ไต่ถามถึงความเป็นมาของการปฏิบัติกรรมฐานที่ผ่านๆ มาเมื่อหลวงพ่อสังข์ ทราบเรื่องแล้ว หลวงพ่อสังข์ก็กล่าวชมเชยว่า ใช้ได้ทั้งๆที่ยังไม่มีใครสอนหรือต่อให้มากอน พร้อมทั้งพูดเสริมขึ้นอีกว่า "ฉันบวชให้คุณฉันได้บุญหลาย" ต่อจากนั้น หลวงปู่ทิมก็ได้นั่งปุจฉา-วิสัชนาอยู่กับหลวงพ่อวัดน้ำเต้าอย่างใก้ลชิด และทราบซึ้งในธรรมะมาก นับว่าเป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ท่านได้รับรู้แนวทางการเจริญธรรมกรรมฐานอย่าง จริงจังหลวงปู่ทิมมีเวลาอยู่เจริญกรรมฐานกับหลวงพ่อวัดน้ำเต้าอย่างใก้ลชิดเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ต่อมาหลวงปู่ทิมจึงย้ายมาจำพรรษายังวัดพระขาว ตั้งแต่ พ.ศ.2492 และขึ้นเป็นเจ้าอาวาส พ.ศ.2498 จวบจนปัจจุบัน
ด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม หลวงปู่ทิม วัดพระขาว สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก เมื่อ พ.ศ.2500
พ.ศ.2510 ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลน้ำเต้า ตำบลพระขาว พร้อมทั้งได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2512 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูสังวรสมณกิจ
พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม
ผลงานด้านการพัฒนา หลวงปู่ทิมท่านได้บูรณปฏิสังขรณ์สภาพของวัดที่เก่าแก่แต่เดิม ให้มั่นคงถาวรทั้งหมด
ดังที่ได้เห็นทุกวัน ซึ่งเกิดจากบุญญาบารมีของหลวงปู่ทิม วัดพระขาวอย่างแท้จริง ซึ่งมีผลงานปรากฏดังนี้คือ
หลวงปู่ทิมปรับปรุงกุฏิทั้งหมด รวม 9 หลัง เมื่อปี พ.ศ.2499-2500 สร้างหอสวดมนต์ เมื่อปี 2501 เปลี่ยนกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถจากกระเบื้องดินให้เป็นกระเบื้องเคลือบ ยกช่อฟ้าพระอุโบสถ ทำหน้าบันพระอุโบสถทำกำแพงรอบพระอุโบสถ ทำรั้วคอนกรีตเสริมเหล็กรอบๆ บริเวณวัดสร้างศาลาพักร้อนหน้าวัด สร้างฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ)
ปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญ และสร้างศาลาเรียงพร้อมทั้งเปลี่ยนกระเบื้องศาลาทั้งหมด ทำห้องสุขาชาย-หญิง พร้อมห้องน้ำ สร้างถังน้ำคอนกรีตใหญ่และศาลา สร้างสะพานคอนกรีตจากกุฏิไปยังศาลาการเปรียญ เปลี่ยนกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถ จากกระเบื้องเคลือบมาเป็นกระเบื้องลายเทพนม สร้างภาพเขียนฝาผนังในพระอุโบสถ เป็นภาพพุทธประวัติ และเรื่องราวของพระเวสสันดรชาดก

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว เป็นพระนักปฏิบัติ และชอบการปลีกวิเวกอยู่ในป่าช้า สมถะรักสันโดษ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ไม่จับต้องปัจจัยเงินทอง มีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ มีความเมตตาต่อทุกคนที่ไปกราบไหว้โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ หรือคนรวยคนจน ท่านให้ความเสมอภาค

การเข้ากราบไหว้ขอพรหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ทุกคนมีโอกาสเหมือนกันหมด และจะได้รับแจกของดีจากมือท่านโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลัง อาทิ พระขุนแผน ปลาเงินปลาทอง ลูกอมชานหมาก ภาพถ่ายสี ขนาดพกติดตัวที่เลื่องลือกันว่ามีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมและโชคลาภสูง

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว โดดเด่นด้านวัตถุมงคลประเภทพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อสังข์ พระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นต้น จนมีความเชี่ยวชาญชำนาญในวิปัสสนากรรมฐาน และวิทยาคมต่างๆ

หลวงปู่ทิม วัดพระขาวท่านมีปริศนาธรรม คำสอนอันทรงคุณค่า รวมทั้งการสร้างและเสกวัตถุมงคลจนเลื่องชื่อ เป็นที่ต้องการของนักสะสมและลูกศิษย์ลูกหา โดยเฉพาะ ลูกอมชานหมาก

สำหรับวัตถุมงคลหลวงปู่ทิม วัดพระขาว พระกริ่ง พระขุนแผน และเหรียญมีสร้างหลากรุ่นหลายปีมาก รุ่นที่หยิบยกมาเอ่ยถึงนี้ นับวันเริ่มหายากแล้ว พระกริ่งสร้างปี 2539 พระขุนแผนเคลือบ สร้างปี 2540 และเหรียญรูปเหมือน สร้างปี 2540 จัดสร้างถวายหลวงปู่ทิม สำหรับแจกฟรีให้กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหา โดยนักธุรกิจใจบุญ "บุญมา บุญเลิศวณิชย์" ซึ่งขออนุญาตสร้างไว้ทั้งหมด 14 พิมพ์ด้วยกัน

โดยเฉพาะเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ห้วงนี้ลูกศิษย์ลูกหาสายตรงตามเก็บหมด ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ทิมนั่งเต็มองค์ ด้านบนเขียนว่า พระครูสังวรสมณกิจ (หลวงปู่ทิม อตฺตสนฺโต) ด้านล่างเขียนว่า รุ่นแรก ส่วนด้านหลังส่วนบนเขียนว่า "แจกวันเกิดอายุ ๘๔-๑๕ ม.ค.๔๐ วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา" ตรงกลางมียันต์ ด้านล่างเขียนว่า "รุ่นบุญรวยมา"

ก่อนหลวงปู่ทิม วัดพระขาวท่านละสังขารยังเมตตาอธิษฐานจิตพระขุนแผนและพระนางพญา ให้วัดโล่ห์สุทธาวาส จ.อ่างทอง เปิดให้ประชาชนทั่วไปร่วมบุญบูชา เพื่อนำปัจจัยสมทบทุนสร้างอุโบสถวัดโล่ห์ฯ นอกจากนี้ ยังอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย รุ่นที่ระลึกครบ 8 รอบ 96 ปี เพื่อนำรายได้บูรณะวัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา

ท้ายที่สุด ด้วยสภาพสังขารที่ร่วงโรยไปตามวัย กอปรด้วยอายุที่ล่วงเลยเข้าสู่บั้นปลาย หลวงปู่ทิม อัตตสันโตท่านย่อมไม่สามารถหลีกหนีสัจธรรมชีวิตที่เคยกล่าวปรารภไว้ได้เช่นกัน เมื่อเวลา 10.55 น. วันที่ 22 มีนาคม 2552 หลวงปู่ทิมได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ ด้วยอาการปอดบวมและติดเชื้อในกระแสโลหิต

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หรือ"พระครูสังวรสมณกิจ"ย้ำอยู่เสมอว่า วัตถุมงคลทั้งหลายล้วนเข้มขลังด้วยอำนาจแห่ง พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แต่ไม่ว่าใครจะมีพระเครื่องที่ดี เด่น ดังเพียงใดก็ตาม ที่สุดแล้วก็ไม่สามารถหนีความตายไปได้ เพราะนี่คือสัจธรรมของชีวิต
คอลัมน์ มงคลข่าวสด ที่มา...หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.luangputim.com/home.html