ทุ่งมะขามหย่อง สถานที่ประวัติศาสตร์ และ ที่พักริมทางแห่งถนน 347
ขากลับซื้อของฝากติดมือกลับบ้านที่ อยุธยา พาวีเลี่ยน
สวัสดีครับหลังจากที่หายไปนาน วันนี้กระผมและทีมงานล้อหมุนเจ้าเก่าจะได้เริ่มทำงานกันซะที(หลังจากที่ล้อไม่หมุนมานานนนนน) กับเรื่องราวที่ดองไว้เกือบปีวันนี้ได้มีโอกาศนำเสนอ ถึงจะมาช้าแต่ชัวร์ครับ ถ้าเดินทางผ่านมาบนเส้นทาง347 นี้ก็อย่าลืมแวะพักรถกันสักนิดนึงสถานที่จอดรถกว้างขวาง เดินสูดอากาศ ยืดเส้นยืดสาย แบบสบายๆแล้วค่อยเดินทางกันต่อก็คงไม่เสียเวลานะครับ หรือจะตั้งใจมาก็ไม่ว่ากันครับ
เช้าๆอากาศดีมากมีต้นไม้ปรกคลุมโดยรอบ เข้าไปแล้วสามารถขับรถวนได้รอบทุ่งมะขามหย่อง และมี พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ตั้งอยู่ตรงกลางสามารถที่จะเข้าไปสักการะบูชาได้เลย จากทางเข้า มองไปซ้ายมือจะมีหอจดหมายเหตุ ชั้นบน ไว้ให้ศึกษาและมีวีดีโอสไลด์บันทึกเหตุการณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เสด็จพระราชดำเนินพิธีเปิดทุ่งมะขามหย่องอย่างเป็นทางการ และสร้างความประทับใจให้ชาวอยุธยามิรู้ลืม สามารถขึ้นไปดูได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆๆแถมยังเป็นห้องแอร์ให้นั่งชมสบาย โดยรอบยังมีรูปวาด และภาพถ่าย และ ทุ่งมะขามหย่องจำลอง ส่วนชั้นล่างยังมีสินค้าโอทอปให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันอีกด้วย ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่แล้วอากาศเย็นๆ มีโอกาศก็แวะมาเที่ยวกันได้ครับไม่ไกลมาก และสถานที่ท่องเที่ยวในตัวจังหวัดอยุธยาอีกมากมาย วัดวาอาราม โบราณสถาน ตลาดน้ำ โน่น นี่ นั่น เหนื่อยนักต้องพักกันบ้าง ช่วงนี้ปิดเทอมเด็กๆว่างๆก็ชวนกันมาดูครับ อย่างไรก็ขอฝากทุ่งมะขามหย่องไว้พิจรณาอีกหนึ่งแห่งครับ ขอบคุณครับ
ประวัติโดยย่อ
ในอดีตนั้น ทุ่งมะขามหย่อง ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.บ้านใหม่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ดังที่ว่าเป็นที่สู้รบในศึกกองทัพกรุงศรีอยุธยาปะทะกับกองทัพพระเจ้าแปร เมื่อปี 2091 ในวันอาทิตย์ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 4 ที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พร้อมด้วยพระมเหสี คือสมเด็จพระมหาสุริโยทัย ซึ่งแต่งพระองค์เยี่ยงพระมหาอุปราช และพระราชโอรส-พระราชธิดา ทรงช้าง ยกกองทัพไปยังทุ่งภูเขาทอง พระมหาจักรพรรดิทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระเจ้าแปร ที่ทุ่งมะขามหย่องแห่งนั้น กระทั่งเกิดเหตุมีอันให้สมเด็จพระมหาสุริโยทัย ต้องพระแสงของ้าวของพระเจ้าแปร จนสิ้นพระชนม์บนคอช้าง
ต่อมาพื้นที่แห่งนี้ ยังปรากฏว่าเป็นที่ตั้งกองทัพของมังมอด ราชบุตรแห่งพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง ซึ่งดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราช ยกกองทัพมาตั้งค่ายที่ขนอนปากคู่ ในแผ่นดินพระมหาธรรมราชา หลังจากสมเด็จพระนเรศวรทรงประกาศเอกราชได้ 2 ปี ก็เกิดเหตุการณ์ที่ว่าสมเด็จพระนเรศวรยกพลออกมาปล้นค่ายพม่าหลายครั้ง และทรงใช้พระโอษฐ์คาบพระแสงดาบปีนเสาระเนียดเข้าไปในค่ายข้าศึก ทำให้พระแสงดาบเล่มนั้นปรากฏนามว่าพระแสงดาบคาบค่าย
กระทั่งมาถึงรัชกาลปัจจุบัน ทุ่งมะขามหย่องแห่งนี้ยังมีความสำคัญที่เป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำริให้สร้างพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ที่บริเวณทุ่งมะขามหย่อง เพื่อชาวไทยได้รำลึกถึงวีรกรรมในครั้งนั้น และยังเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวาย ในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในปี 2535
โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อ 31 สิงหาคม 2534 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระศรีสุริโยทัย เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2538
ทั้งนี้ อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่รวมจิตใจคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะครั้งที่สร้างความประทับใจให้ชาวอยุธยามิรู้ลืม คือครั้งที่พระองค์ทรงเกี่ยวข้าวที่ทุ่งมะขามหย่อง ในปี 2539
นอกจากนี้ ในทางความสำคัญแห่งวิถีชีวิตของประชาชน ทุ่งมะขามหย่องแห่งนี้ ยังเป็นหนึ่งในพื้นที่โครงการพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้นำพื้นที่ทุ่งนาในตำบลบ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 250 ไร่ มาเป็นพื้นที่แก้มลิงมาตั้งแต่กลางปี 2538 ด้วยทรงห่วงใยพสกนิกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ต้องเผชิญทั้งปัญหาน้ำหลากและภัยแล้ง ทุ่งมะขามหย่อง ต. บ้านใหม่ จึงเป็นที่รองรับน้ำที่สำคัญ และในปี 2549 เมื่อเกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักน้ำท่วมขังในหลายจังหวัด ก็ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ผันน้ำเหนือจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาในทุ่งมะขามหย่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎร
ไม่นานมานี้ปลายปีที่ผ่านมา จากเหตุมหาอุทกภัยใหญ่ แต่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ ยังเป็นแหล่งพักพิงของประชาชนที่บ้านถูกน้ำท่วมนับพันชีวิต รวมไปถึงสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นช้าง ม้า วัว ควาย ได้อาศัยอยู่หนีน้ำยาวนานนับเดือน
ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ http://www.bangkokbiznews.com
ขากลับซื้อของฝากติดมือกลับบ้านที่ อยุธยา พาวีเลี่ยน
อยุธยา พาวีเลี่ยน เปิดแล้ว สี่แยกวรเชษฐ์ อาหาร เครื่องดื่ม ของฝาก สินค้าโอทอป ห้องน้ำสะอาด ที่จอดรถ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เพียบๆๆๆๆๆๆๆ
แผนที่คร่าวๆ หลงอย่าว่ากันเน้อ
https://maps.google.co.th/maps/ms?msid=203125740662505625283.0004cbc9125f2fd907c34&msa=0&ll=14.351432,100.528644&spn=0.001403,0.001725
สอบถามเพิ่มเติม อื่นๆ โทร 087-3711704
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น